

วิธีการเล่นโป๊กเกอร์ Texas Hold’em
ใน poker ผู้เล่นจะต้องทำให้ไพ่ 5 ใบของเราดีที่สุด โดยที่เริ่มต้นเกมผู้เล่นทุกคนจะได้รับการแจกไพ่คนละ 2 ใบ (hole card) และในรอบต่อๆไปจะมีการเปิดไพ่กองกลาง (community cards) ทั้งหมด 5 ใบ โดยแบ่งการเปิดเป็น 3 รอบ

ไพ่กองกลอง (community cards) จะถูกแบ่งออกเป็นไป 3 รอบ ดังนี้
รอบที่ 1 : เปิดไพ่กองกลางจำนวน 3 ใบ ในรอบนี้เราจะเรียกว่า flop
รอบที่ 2 : ไพ่กองกลางจะถูกเปิดเพิ่มอีกจำนวน 1 ใบ ในรอบนี้เราจะเรียกว่า turn
รอบที่ 3 : ไพ่กองกลางจะถูกเปิดเพิ่มอีกจำนวน 1 ใบเป็นใบสุดท้าย ในรอบนี้เราจะเรียกว่า river
ผู้เล่นจะต้องทำให้ไพ่ของตนเองใหญ่ที่สุดหรือดีที่สุดในโต๊ะ โดยเลือกไพ่ 5 ใบจากไพ่ทั้งหมด 7 ใบ ซึ่งเราอาจจะใช้ไพ่ในมือ 2 ใบรวมกับไพ่กองกลาง 3 ใบ หรือ ใช้ไพ่ในมือ 1 ใบรวมกับไพ่กองกลาง 4 ใบ หรืออาจจะไม่ใช้ไพ่ในมือเลยและใช้แต่ไพ่กองกลางทั้งหมด 5 ใบเลยก็ได้
ในทุกๆรอบผู้เล่นทุกคนจะได้ทำการตัดสินใจว่าจะเล่นต่อ(call/check) จะวางเดิมพันเพิ่ม(raise) หรือจะหมอบ(fold) เมื่อวนมาถึงรอบ river และยังมีผู้เล่นอย่างน้อย 2 คนตัดสินใจที่จะเล่นต่อ จะมีการเปิดไพ่ในมือของผู้เล่นที่เหลือ เพื่อที่จะได้ดูว่าไพ่ของใครดีกว่ากันและได้รับเงินตรงกลาง(pot)นั้นไป แต่ถ้าหากในระหว่างนั้นไม่ว่าจะรอบไหนก็ตาม มีการเดิมพันเกิดขึ้น(bet/raise) และทำให้ผู้เล่นคนอื่นๆหมอบ(fold) ทำให้เหลือผู้เล่นอยู่เพียงคนเดียว ผู้เล่นคนนั้นก็จะได้รับเงินเดิมพันตรงกลางไป(pot) โดยที่ไม่ต้องทำการเปิดไพ่ในมือโชว์แต่อย่างใด
การเล่นโป๊กเกอร์ส่วนมากมักจะไปไม่ถึงรอบสุดท้ายหรือช่วง showdown เพราะมีเรื่องของการเดิมพัน การบลัฟฟ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ในบางเกมอาจจะจบลงตั้งแต่ช่วง pre-flop ก็มี

ปุ่ม (button/dealer) จะเป็นตัวกำหนดว่าผู้เล่นคนไหนจะได้ตัดสินใจก่อน-หลังในเกมนั้นๆและยังเป็นตัวกำหนด small blind และ big blind อีกด้วย โดยปุ่มนี้จะถูกเลื่อนไปทางด้านซ้ายมือทุกครั้งหลังจากจบเกม ซึ่งผู้เล่นที่มีปุ่มอยู่ด้านหน้าจะเป็นผู้เล่นที่ได้ตัดสินใจเป็นคนสุดท้ายในทุกๆรอบของเกม
Blind เป็นผู้เล่นที่ถูกกำหนดให้วางเดิมพันก่อนการเริ่มเกม โดยแบ่งเป็น small blind ผู้เล่นที่นั่งด้านซ้ายมือของปุ่ม ซึ่งจะต้องวางเงินเดิมพันครึ่งนึง และ big blind ผู้เล่นที่นั่งติดกับตำแหน่ง small blind ซึ่งต้องวางเงินเดิมพันเต็มจำนวนก่อนการแจกไพ่จะเริ่มขึ้น ถ้าเกม “$1/$2” ก็หมายถึง ผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง small blind จะต้องวางเดิมพัน $1 และผู้เล่นที่อยู่ตำแหน่ง big blind จะต้องวางเดิมพัน $2 ก่อนการแจกไพ่นั่นเอง
เมื่อผู้เล่นในตำแหน่ง blind วางเดิมพันแล้ว คนแจกไพ่(dealer)จะเริ่มแจกไพ่ให้กับผู้เล่นทุกคน คนละ 2 ใบ เพื่อเข้าสู่รอบต่อไป ที่เราเรียกว่ารอบ pre-flop ในรอบนี้ผู้เล่นที่อยู่ทางด้านซ้ายของ big blind จะเป็นผู้เล่นที่ได้ตัดสินใจเป็นคนแรก โดยที่มีให้เลือก 3 ตัวเลือกนั้นคือ
Call เลือกที่จะเล่นต่อโดยวางเดิมพันเท่ากับ big blind
Raise เพิ่มเงินเดิมพันสูงขึ้นกว่ามูลค่า big blind
Fold ไม่เล่นต่อ (ถ้าตัดสินใจ fold แล้ว ผู้เล่นคนดังกล่าวจะถูกตัดออกจากรอบนั้นทันที)
.png)
การเล่นรอบ pre-folp
เมื่อผู้เล่นคนแรกตัดสินใจแล้ว ผู้เล่นคนถัดไปจะได้เป็นคนตัดสินใจต่อ เมื่อวนครบทุกคนแล้ว การเดิมพันในรอบนั้นจะถือว่าสิ้นสุดลง คนแจกไพ่จะรวมไพ่ของผู้เล่นที่ fold แล้วเอาไว้ด้วยกัน และรวมชิพในการเดิมพันในรอบนี้ไว้ตรงกลาง (pot) ก่อนจะเข้าสู่รอบ flop

การเล่นรอบ folp
โดยในรอบ flop คนแจกไพ่จะเปิดไพ่กองกลาง (community cards) 3 ใบ และเริ่มเดิมพันกันในรอบที่สอง ในรอบนี้ผู้เล่นที่ได้ตัดสินใจคือผู้เล่นที่ยังไม่ fold ในรอบที่แล้ว โดยผู้เล่นคนแรกที่ได้ตัดสินใจคือผู้เล่นที่อยู่ทางด้านซ้ายของปุ่ม (button/dealer) โดยมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นมาจากรอบก่อนนั้นคือ check ตัวเลือกนี้จะหมายถึงการไม่ลงเดิมพันเพิ่ม แต่ขอเช็คผ่านเพื่อให้คนอื่นตัดสินใจต่อไป แต่เราจะไม่สามารถ check ผ่านได้ถ้าหากผู้เล่นก่อนหน้าเรามีการลงเดินพันหรือ raise เพิ่มขึ้นมา เมื่อผู้เล่นที่เหลืออยู่ตัดสินใจกันครบหมดแล้ว เราก็จะเข้าสู่รอบถัดไป นั่นคือ รอบ turn

การเล่นรอบ Turn
โดยในรอบ turn คนแจกไพ่จะเปิดไพ่กองกลาง (community cards) เพิ่มอีก 1 ใบ และเริ่มเดิมพันกันในรอบที่สาม ในรอบนี้ผู้เล่นคนแรกที่ได้ตัดสินใจคือผู้เล่นที่อยู่ทางด้านซ้ายของปุ่ม(button/dealer) เหมือนกับรอบที่แล้ว เมื่อผู้เล่นทุกคนตัดสินใจกันครบหมดแล้ว เราก็จะเข้าสู่รอบสุดท้าย นั่นคือ รอบ river

การเล่นรอบ River
โดยในรอบ river คนแจกไพ่จะเปิดไพ่กองกลาง (community cards) เพิ่มอีก 1 ใบ ซึ่งถือว่าเป็นใบสุดท้ายของเกม และเริ่มเดิมพันกันในรอบสุดท้าย ในรอบนี้ผู้เล่นคนแรกที่ได้ตัดสินใจคือผู้เล่นที่อยู่ทางด้านซ้ายของปุ่ม(button/dealer) เหมือนกับรอบก่อนๆ เมื่อผู้เล่นทุกคนตัดสินใจกันครบหมดแล้ว ผู้เล่นที่ยังคงอยู่ในเกมจะต้องเปิดไพ่ในมือ เพื่อตัดสินว่าไพ่ของใครดีที่สุดนั่นเอง การโชว์ไพ่ในมือนี้ เราเรียกกันว่า showdown

Showdown ไพ่
เมื่อผู้เล่นที่เหลือ showdown ไพ่ในมือตัวเองแล้ว ดังตัวอย่างรูปทางด้านบน เราจะเห็นว่าผู้เล่นที่ถือ 10 ♣ 9 ♣ เป็นผู้ชนะในรอบนี้ไป เนื่องจากเมื่อนำไพ่ในมือมารวมกับไพ่กองกลางแล้ว จะทำให้เขาติด full house (10♣ 10♥ 9 ♥ 9♣ 9♠) ซึ่งถือว่าดีที่สุดแล้ว
Hand ranking จึงถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้เล่นมือใหม่เช่นกัน เพราะถ้าเราไม่รู้ว่าไพ่แบบไหนดีกว่าไพ่แบบไหน เราก็จะไม่มีทางรู้ว่าไพ่ที่เราถืออยู่นั่นดีหรือไม่ดีนั่นเอง